ฟอกสีฟัน

ฟอกสีฟัน

ด้วยวิธีการฟอกสีฟัน ทำให้หลายคนมีรอยยิ้มที่ขาวใสมากขึ้น เมื่อคุณสำรวจฟันดูแล้วพบว่า คุณมีสีฟันที่เหลืองมากกว่าเดิมหรือฟันดำคล้ำ ซึ่งเกิดมาจากการใช้ยาปฏิชีวนะชนิดเตตราซัยคลินในวัยเด็ก ซึ่งสาเหตุที่สีฟันของเราเปลี่ยนไป ก็อาจเนื่องมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ฟันเหลืองตามอายุ การสูบบุหรี่ ดื่มชา กาแฟ การรับประทานอาหารที่มีสีจัด เป็นต้น รวมถึงกรณีได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปในช่วงที่ฟันกำลังก่อตัว ก็ทำให้เกิดปัญหาฟันตกกระด้วยเช่นกัน ตลอดจนคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับฟันล้วนมีผลทำให้ฟันเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เทาหรือดำ ได้ทั้งสิ้น

 

เมื่อได้ทราบสาเหตุแล้วหลายคนจึงไม่นิ่งนอนใจที่อยากจะเปลี่ยนสีฟันเจ้าปัญหานั้นให้กลับกลายมาเป็นฟันขาวใสเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง  ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่ามีเทคโนโลยีในการฟอกสีฟันอะไรบ้าง  เพื่อที่จะเลือกใช้ให้เหมาะกับตนเอง

โดยสามารถแบ่งวิธีการฟอกสีฟันได้ดังนี้

 

1.การฟอกสีฟันในคลินิก

เป็นการฟอกสีฟันโดยการใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูงกว่าน้ำยาที่ใช้ฟอกเองที่บ้าน ส่งผลให้มีความระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในช่องปาก ถ้าสัมผัสโดนน้ำยาโดยตรง ดังนั้นขั้นตอนก่อนการฟอกสีฟัน ทันตแพทย์จะใช้วัสดุมาปิดเหงือกบริเวณคอฟันก่อนเสมอ จากนั้นจึงใช้พลังงานจากแสง เพื่อเร่งและกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาเคมีในเจลฟอกสีฟันได้  วิธีนี้ใช้เวลาในการทำประมาณ 45 นาที ก็เสร็จเรียบร้อย

2.การฟอกสีฟันด้วยตนเองที่บ้าน

การฟอกสีฟันชนิดนี้ ทันตแพทย์จะให้คุณนำน้ำยาฟอกสีฟันพร้อมถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคลไปทำเองที่บ้าน แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์เป็นระยะ วิธีการคือ ทันตแพทย์จะพิมพ์ปาก เพื่อทำถาดพลาสติกสำหรับใส่สารฟอกสีฟันเป็นการเฉพาะราย โดยตัวถาดฟอกสีฟันจะต้องแนบพอดีกับขอบเหงือก และมีที่ว่างให้ใส่เจลฟอกสีฟันได้ วิธีนี้ต้องทิ้งไว้ทั้งคืน นาน 10-15 วัน โดยทันตแพทย์จะนัดมาดูผลสัปดาห์ละครั้ง เพื่อปรับความเข้มข้นของสารฟอกสีฟัน และแนะนำระยะเวลาในการทำแต่ละครั้งให้

จากวิธีการฟอกสีฟันทั้งสองแบบ ทำให้ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสีฟันมีทางเลือก เนื่องจากทั้งสองวิธีก็มีความแตกต่างกันด้านงบประมาณและระยะเวลาในการเห็นผล จึงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ที่จะฟอกสีฟัน แต่อย่างไรก็ตามการปรึกษาทันตแพทย์จะทำให้ทางเลือกกระจ่างชัดขึ้น

ข้อควรรู้หลังจากฟอกสีฟัน

ไม่ว่าคุณจะฟอกสีฟันที่คลินิกหรือที่บ้าน หลังจากฟอกสีฟันแล้วคุณอาจมีอาการเสียวฟันอยู่บ้าง ในช่วง 24 – 48 ชั่วโมงนี้ควรระวังเรื่องการกินและการดื่ม โดยเฉพาะอาหารที่มีสี เช่น ชา กาแฟ และอาหารสีเข้มทั้งหลาย รวมทั้งควรดื่มน้ำเปล่าที่สะอาดจะดีกว่า ควรเลี่ยงการดื่มน้ำเย็นเพราะอาจจะไปกระตุ้นให้เกิดอาการเสียวฟันมากขึ้น  แต่ถ้าอาการเสียวฟันยังมีมาก ให้รับประทานยาแก้ปวด อาจจะช่วยบรรเทาอาการลงได้

ข้อคิดในการฟอกสีฟัน

1.เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

การฟอกสีฟันนับเป็นการลงทุนให้กับตัวเองในเรื่องของบุคลิกภาพ เพราะรอยยิ้มเป็นหน้าต่างอีกบานที่จะต้อนรับมิตรภาพดี ๆ เข้ามา รวมถึงเป็นเสน่ห์แก่ผู้พบเห็นที่มีมากกว่าคนที่มีสีฟันไม่สดใส

2.รู้สึกชื่นชมตนเอง

คนที่ฟอกสีฟันมาใหม่ ๆ จะมองเห็นความแตกต่างได้ชัดเจน ระหว่างก่อนและหลังการฟอกสีฟัน สิ่งนี้เองที่หลายคนที่ฟอกสีฟันมาแล้วมักจะมีความมั่นใจว่า เมื่อไปยิ้มให้กับคนภายนอกพวกเขาก็จะชื่นชมในเรื่องของฟันที่ขาวสะอาดเช่นกัน

3.ดูแลตัวเองมากขึ้น

เราคงเคยได้รับการแนะนำเรื่องการหันมาใส่ใจดูแลตนเองก่อนแล้วสิ่งดี ๆ ทุกอย่างจะตามมา การฟอกสีฟันนับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้ในการดูแลตนเองในเรื่องของปากและฟัน หากปล่อยให้ฟันเหลือง ดำ คล้ำ มีกลิ่นปาก ย่อมไม่มีใครอยากเข้าใกล้ แต่หากได้ใส่ใจคอยระวังในการรับประทานอาหาร ทำความสะอาดฟันบ่อย ๆ ไม่ปล่อยให้เป็นคราบ คนแรกที่จะรู้สึกดีก่อนก็คือตัวของคุณเองและคนภายนอกก็จะรู้สึกดีตามไปด้วย

ปัญหาสีฟันของแต่ละคนไม่เท่ากัน ก่อนใช้วิธีฟอกสีฟันแบบใด ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อรอยยิ้มขาวใสกลับคืนมาแบบไร้กังวล

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ย้อนกลับด้านบน